Love Life or Dea-l-H?:แจยุนXมิกเซียมิน:[NC-15] - นิยาย <fiction-TVXQ>Love Life or Dea-l-H?:แจยุนXมิกเซียมิน:[NC-15] : Dek-D.com - Writer
×

    <fiction-TVXQ>Love Life or Dea-l-H?:แจยุนXมิกเซียมิน:[NC-15]

    บาทหลวงที่ต้องกลับมาแก้แค้นพี่ชายตัวเองซึ้งราวกับตราบาปย้อนคืนในสิ่งที่เขาก่อ แจจุง บาทหลวงบริสุทธ์อุทัศให้แก่การแก้แค้นยุนโฮ แม้ต้องแลกด้วยร่างกายของแจจุงเองก็ตาม!!

    ผู้เข้าชมรวม

    12,565

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    12.56K

    ความคิดเห็น


    93

    คนติดตาม


    45
    จำนวนตอน :  8 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 ต.ค. 50 / 17:14 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Fiction name     : Love Life or Death?

    Chapter            : INtro

    Fiction from      : TVfXQ & SM town.

    Present & Write By CarYmono

    มันเป็นความทรงจำของเขาที่เขาเจ็บปวด..........

       มันเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือน...............

        มันเป็นความทรงจำที่เขา......ทำให้คนถึง2คนเจ็บปวด...............

            และนี่เป็นบาปที่เขาไม่สามารถลบเลือนไปได้ตลอดชีวิต..........................

    วันนั้น......ผมผู้เศร้าใจได้เดินเข้าไปในสถานที่ต้องห้าม....

    กระจกนับร้อยและส่องแสงสีเมื่อแดดยามบ่ายมากระทบในวันที่ฝนตกหมาดๆ...

    แผ่นหลังของใครซักคน...หันหน้าให้แก่ไม้กางเขน ท่องถ้อยคำราวกับปลุกเสกมนต์จนหลังไหล

    ภายในโบสถ์ของโรงเรียน ดวงตาคู่สวยไม่สนใจความสวยงามของสถานที่อีกต่อไป สายตาสวยจับจ้องตรงไปเรื่อยๆที่ร่างตรงหน้า...บาทหลวงยังคงกล่าวต่อไปราวกับเสียงเพลงไพเราะ เหมือนกับเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน...

    สายตาไม่ลดละ และเข้าไปนั่งข้างในไม่ห่างจากที่ๆร่างบางยืนอยู่...

    "อาเมน...."

    คำสวดจบลงในที่สุด ผมยังคงมองเค้าอยู่ตรงนี้ ละสายตาไปไม่ได้จริงๆ

    อยากรู้จัก หน้าตาเป็นยังไงนะ? ดวงตาคู่นั้นจะสวยมั้ย? แล้วเค้าจะใจดีรึเปล่านะ?

    คำถามที่เกิดขึ้นเพื่อรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

    บาทหลวงหันกลับมาพร้อมกับหนังสือในมือ...

    ริมฝีปากระเรื่อแดง ดวงตาคู่สวยแต่ก็แฝงแววเศร้าเอาไว้ แก้มชมพูใสตัดกับผิวขาวสีอ่อน เส้นผมสีทองปลกหน้าสวยบดบังดวงตาคู่เรียวเอาไว้ราวกับต้องการให้ผู้เชยชมได้ค้นหาเข้าไป ร่างสวยสูงในชุดสีดำยาวลายไม้กางเขน กระดุมเม็ดบนถูกปลดออกเล็กน้อยเพราะความร้อน เหงื่อหยาดน้อยยังไหลรินอยู่ข้างแก้ม รอยยิ้มน้อยๆผุดออกมาในไม่ช้าเมื่อคนรู้จักของเขาเอ่ยทักขึ้น...

    "ว่าไง แจจุง??..."

    ท่าทางกระหืดหระหบวิ่งมาไม่ช้าและหยุดลงที่หน้าเขา เสียงหอบจนเกิดไอบางเบารอยอยู่ไม่ห่างจากริมฝีปาก ร่างใหญ่ที่วิ่งมาก้มตัวยันกับเข่าเอาไว้เพื่อผ่อนแรงเหนื่อย บาทหลวงลงเตะไหลของเพื่อนช้าๆและส่งยิ้มเย็นๆให้

    "ทำไมหรอครับ...? คุณชางมิน...?"

    เสียงเพราะกล่าวออกมา ไพเราะไม่ต่างจากที่เขาเคยเอ่ยเมื่อยามท่องมนต์

    ผมยังคงจ้องดูท่าทีต่อไปและเกรงใจจนไม่สามารถก้าวเท้าออกไปทำความรู้จักกับคนตรงหน้าได้

    รอยยิ้มนั้นกับคำปลอบโยนราวกับสนิทชิดเชื้อกับคนตรงหน้ามากนั้น ทำเอาผมกลัวที่จะทักออกไป กลัวจะเป็นการเสียมารยาท...

    "วันนี้ก็มาสารภาพบาปหรอ?" ร่างบางเอ่ยขึ้นอีกครั้งและเดินนำไปที่ตู้กล่องทำจากไม้แกะสลักอย่างงดงาม ก่อนจะเปิดประตูออกและเชิญเพื่อนคนนั้นเข้าไปนั่ง

    ผมมองสายตาไม่ลดละจากบาทหลวงคนนี้ได้

    เมื่อคนที่ถูกเรียกว่า ชางมิน เดินเข้าไปในตู้ บาทหลวงก็เปิดประตูให้และเข้าไปข้างในตู้ที่ตั้งไว้ติดกัน

    ผมพยายามเงียหูฟัง......

    "ผม.....ผิดอีกแล้ว.....ผมไม่สามารถช่วยเขาได้ เขากล่าวผมไร้ประโยชน์ ไม่มีค่าพอเลยสำหรับเขา ผมโกรธ โกรธมาก! มีดที่อยู่ใกล้ๆตัวนั้น ผม.....ผม.....ผม....หยิบมันและแทงใส่เขา.....ละ...ละ....แล้วเลือดก็ออก...ออกมาเต็มมือผมเลย.....ผมกลัว....ตัวสั่น....มันน่ากลัว...." เสียงที่ค่อยๆสั่นขึ้นเรื่อยๆจนรู้ได้เลยถึงสีหน้าของคนๆนั้น....ชางมิน

    "นายนะ........ไม่........เท่าไหร่......ใจ...............เท่า.............บาปนั้น..............ได้รับ.......แล้ว...."

    คำตอบรับของบาทหลวงที่เดี๋ยวดังเดี๋ยวค่อยจนผมไม่สามารถจำใจความได้ ก็สารภาพบาปนี่นา...

    คนในตู้แรกออกมาพร้อมน้ำตาและโค้งให้บาปหลวง แต่ในมือนั้นกำอะไรบางอย่างไว้ สีขาว...??

    แล้วร่างนั้นก็จากไป

    บาทหลวงออกมาและถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่เปียโน นิ้วเรียวจรดคีย์บนแป้น แต่จู่ๆมือถือก็มีข้อความเข้ามา ผมจึงต้องละสายตาออกมาชั่วคราว...

    'จะอู้ไปถึงไหน? กลับมาทำงานซะ'

    ข้อความสั้นๆเท่านั้น ผมถอนหายใจบ้างและเดินกลับไปที่รถซึ้งจอดอยู่ตรงข้ามกับรั้วของโบสถ์

    ถ้าได้พบกันอีกก็คงดี.....

    ในใจคิดได้แค่นั้น.....แล้วผมก็ขับรถออกไป

    "มาซักที ให้ตายซิ!งานการมีไม่ทำ....วันๆเอาแต่เที่ยวไปไหนล่ะ??"

    เสียงเพื่อนรักผมเองดังขึ้นเมื่อมาถึงสถานที่ทำงาน

    เตียงบางเตียงถูกเข็นตัดหน้าไป กลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อและผ้าสะอาดกระจายไปทั่วปะปดกับกลิ่นเลือด

    ก็.....ที่นี่มันโรงพยาบาล...นี่นา

    ผมเข้าไปประจำที่แผนกฉุกเฉิน

    ทำงานท้าทายกับความเป็นและความตาย...

    รถชนวันนี้2คัน คันนึงที่เลี้ยวหลบจนตกขอบถนนและลงไปในป่า

    สาหัส3คนและบาดเจ็บเพียงคนเดียว

    "เรา....ไปกันเถอะ ยุนโฮ..." เพื่อนรักกระทบไหล่เบาๆและเรียกให้ไปทำงาน

    "อือ ไปกันเถอะ ซิวอน..." ร่างใหญ่ลุกจากเก้าอี้และตรงไปที่ห้องฉุกเฉิน

    ระหว่างความเป็น...หรือตาย...มันอยู่ในมือเขาแล้ว

    งานที่ต้องตราบาปอย่างนี้...ทำมันจนชินซะแล้วล่ะ

    แต่ก็ไม่เท่าบาปที่เขาเคยทำ พรากคนรักไปถึง2คน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น